ผิวใสไร้สิว เริ่มต้นด้วยการทำความสะอาดผิวหน้า
Step 1 : ทำความสะอาดผิวหน้าด้วย คลีนซิ่งบาล์ม หรือ รีมูฟเวอร์
ขั้นตอนแรกที่ คนไม่แต่งหน้าหลายคนมองว่าไม่สำคัญ ในแต่ละวันเราต้องเจอกับมลภาวะและสิ่งสกปรกมากมาย ทั้งเหงื่อ ฝุ่นควัน รวมถึงสกินแคร์กันแดดที่ผิวหน้าต้องเจอในแต่ละวัน การล้างหน้าเพียงอย่างเดียว อาจจะไม่เพียงพอ ดังนั้นการใช้ รีมูฟเวอร์เช็ดทำความสะอาดผิวหน้าก่อนล้างหน้า จึงเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน
การใช้ คลีนซิ่งบาล์ม (Cleansing Balm) เป็นวิธีล้างเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกอย่างล้ำลึก โดยเฉพาะเมคอัพกันน้ำ หรือครีมกันแดดแบบติดทน พร้อมช่วยบำรุงผิวให้นุ่ม ไม่แห้งตึง เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวแห้งหรือแพ้ง่าย
✅ วิธีใช้คลีนซิ่งบาล์มอย่างถูกต้อง
มือและหน้าต้องแห้ง
เริ่มใช้ ตอนหน้าแห้ง และ มือแห้ง เพื่อให้บาล์มละลายเมคอัพได้ดีที่สุด
ตักบาล์มปริมาณพอเหมาะ
ใช้ไม้พายหรือปลายนิ้วสะอาด ตักบาล์มประมาณขนาดเหรียญ 5 บาท
(ปริมาณขึ้นอยู่กับว่าคุณแต่งหน้าหนักแค่ไหน)
วอร์มบาล์มบนฝ่ามือ
ถูบาล์มเบา ๆ จนละลายกลายเป็นน้ำมัน
นวดลงบนผิวหน้าแห้ง
นวดวนเบา ๆ ทั่วใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณที่มีเมคอัพมาก เช่น ตา ปาก จมูก
ประมาณ 30 วินาที - 1 นาที
เติมน้ำเล็กน้อยเพื่อ "อีมัลซิไฟ"
หยดน้ำลงเล็กน้อยแล้วนวดต่อ จะเห็นเนื้อบาล์มเปลี่ยนเป็นน้ำนมสีขาว
ช่วยดึงสิ่งสกปรกออกจากผิวได้ดียิ่งขึ้น
ล้างออกด้วยน้ำเปล่า
ล้างให้สะอาดจนไม่เหลือความมัน
ล้างหน้าซ้ำด้วยโฟมหรือเจลล้างหน้า
เพื่อให้แน่ใจว่าผิวสะอาดหมดจด (เรียกว่า "Double Cleansing")
การเช็ดผิวด้วย เมคอัพรีมูฟเวอร์ (Makeup Remover) เป็นขั้นตอนแรกของการทำความสะอาดผิวหน้า โดยเฉพาะในวันที่แต่งหน้า หรือใช้ครีมกันแดดแบบกันน้ำ เพื่อให้ผิวสะอาดหมดจดก่อนการล้างหน้าด้วยโฟม
ขั้นตอนการเช็ดผิวด้วย Makeup Remover
ล้างมือให้สะอาด
ป้องกันสิ่งสกปรกจากมือเข้าสู่ผิวหน้า
เทรีมูฟเวอร์ลงบนสำลีให้ชุ่ม
อย่าให้แห้งเกินไป เพราะจะเสียดสีผิว
เช็ดบริเวณรอบดวงตาก่อน (ถ้ามีเมคอัพ)
แปะสำลีไว้บนเปลือกตาเบา ๆ ประมาณ 5–10 วินาที
แล้วเช็ดเบา ๆ ตามแนวขนตา ไม่ถูแรง
เช็ดบริเวณปาก
แปะสำลีไว้สักครู่ จากนั้นเช็ดออกเบา ๆ โดยเฉพาะลิปแมตต์หรือลิปติดทน
เช็ดทั่วใบหน้า
ใช้สำลีใหม่เทรีมูฟเวอร์เพิ่ม แล้วเช็ดจากกึ่งกลางหน้าออกไปด้านข้าง
เปลี่ยนสำลีเมื่อเริ่มสกปรก จนเช็ดแล้วสำลีขาวสะอาด
ล้างหน้าด้วยโฟมหรือคลีนเซอร์
เพื่อทำความสะอาดผิวอีกครั้งให้หมดจด (ขั้นตอน Double Cleansing)

Step 2 : ขั้นตอนการล้างหน้าด้วยคลีนซิ่งมูส
ล้างมือให้สะอาด
ก่อนสัมผัสใบหน้า ควรล้างมือเพื่อป้องกันสิ่งสกปรกหรือแบคทีเรียเข้าสู่ผิว
ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า (อุณหภูมิห้องหรือน้ำอุ่นเล็กน้อย)
เพื่อเตรียมผิวให้พร้อมและเปิดรูขุมขนเล็กน้อย
กดคลีนซิ่งมูสลงบนฝ่ามือ
ปริมาณพอประมาณ (1-2 ปั๊ม) เนื้อมูสจะฟูและนุ่มในทันที
เกลี่ยมูสลงบนใบหน้าอย่างเบามือ
นวดวนเป็นวงกลมให้ทั่วใบหน้า โดยเน้นบริเวณที่มีเครื่องสำอางหรือความมัน เช่น หน้าผาก จมูก และคาง
นวดเบา ๆ ประมาณ 30 วินาที - 1 นาที
เพื่อให้คลีนซิ่งทำความสะอาดได้ล้ำลึกโดยไม่ทำร้ายผิว
ล้างออกด้วยน้ำสะอาด
ล้างให้เกลี้ยง ไม่มีคราบฟองตกค้าง
ซับหน้าให้แห้งด้วยผ้าขนหนูนุ่ม
ควรใช้ผ้าเฉพาะสำหรับใบหน้า และซับเบา ๆ ไม่เช็ดแรง
Step 3 : ขั้นตอนการบำรุงผิว
ด้วยให้เริ่มจากผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อเบาที่สุดก่อน Moisturizing Essence Water (น้ำตบ) ก่อนเป็นลำดับแรก
หลังจาก Essence ซึมเข้าสู่ผิวแล้วค่อยตามด้วย Aqu Essence Emulsion ที่มีเนื้อเข้มข้นขึ้น
ในช่วงเช้า หลังจากที่ลง Aqua Essence Emulsion เป็นการเตรียมผิวเสร็จแล้ว สามารถลงกันแดดและแต่งหน้าต่อได้ตามปกติ
Step 4 : ขั้นตอนการบำรุงผิว (ช่วงกลางคืน)
ต่อจากสเต็ปที่ 3 หลังจากที่ลง Aqua Essence Emulsion เสร็จแล้ว ให้ตามด้วย Eye Cream ก่อนจะช่วยบำรุงผิวรอบดวงตาให้ดูสดใส ลดปัญหาริ้วรอย ถุงใต้ตา หรือความหมองคล้ำได้ในระยะยาว ซึ่งวิธีใช้อย่างถูกต้องคือ
วิธีใช้อายครีมก่อนนอน
แตะอายครีมปริมาณเล็กน้อย
ใช้ขนาดเท่า "เมล็ดถั่วเขียว" หรือประมาณครึ่งเม็ดข้าวโพด
แตะครีมบนปลายนิ้วนาง เพราะเป็นนิ้วที่มีแรงกดน้อยที่สุด
แตะเบา ๆ รอบดวงตา
ค่อยๆ แตะอายครีมบริเวณ ใต้ตา หัวตา และหางตา
ใช้วิธี “แตะเบาๆ” (patting) ห้ามถูหรือดึงผิว
เกลี่ยบางๆ และให้ซึมเข้าผิว
แตะวนเบา ๆ ไปตามแนวกระดูกเบ้าตา จนครีมซึมหมด
สามารถทาบริเวณใต้โหนกคิ้วได้ด้วย (แต่อย่าเข้าใกล้ตาเกินไป)
หลังจากที่ อายครีม ซึมหมดแล้ว ขั้นตอนสุดท้าย ปิดด้วยการทา สลีปปิ้ง มาส์ก (Sleeping Mask) เป็นขั้นตอนบำรุงผิวตอนกลางคืนที่ช่วยฟื้นฟูผิวให้ชุ่มชื้น กระจ่างใส และดูอิ่มฟูในเช้าวันถัดไป ซึ่งควรใช้ เป็นขั้นตอนสุดท้าย ของการดูแลผิวก่อนนอน
ขั้นตอนการทาสลีปปิ้งมาส์กอย่างถูกวิธี
ทาสลีปปิ้งมาส์ก
ใช้ปริมาณพอประมาณ (มากกว่าครีมบำรุงเล็กน้อย)
ทาให้ทั่วใบหน้าและลำคอ เว้นรอบดวงตา
ไม่ต้องล้างออก ปล่อยให้มาส์กทำงานระหว่างนอนหลับ
เพื่อผลลัพธ์ที่ดี ควรนอนพักผ่อนให้เพียงพอพยายามเข้านอนไม่เกิน 4-5 ทุ่ม เพื่อให้การซ่อมแซมผิวมีประสิทธิภาพสูงสุด และล้างหน้าในตอนเช้าล้างมาส์กออกด้วยน้ำเปล่าหรือโฟมล้างหน้าอ่อนโยน แล้วจึงเริ่มสกินแคร์ตอนเช้าตามปกติ
แนะนำเซตบำรุงผิวหน้า สามารถเลือกได้ตามความสะดวกของแต่ละบุคคล
SET 1 เตรียมผิวให้พร้อมในทุกเช้า ผิวกระจ่างใส เนียนนุ่ม ชุ่มชื้น

SET 2 ต้องการความสะอาดผิวหน้า เวลาน้อย การใช้ รีมูฟเวอร์จะช่วยประหยัดเวลาขึ้น

SET 3 สำหรับคนที่ชอบนวดหน้า มีเวลา การใช้คลีนซิ่งบาล์ม นอกจากจะเป็นการสลายเมคอัพ ครีมและสิ่งสกปรกแล้ว ยังเป็นการนวดหน้าไปด้วย
